Newsletter subscribe
Tag: ก๊าซเรือนกระจก

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)#2 ภาวะโลกร้อน

Posted: 10/12/2020 at 06:18   /   Climate Change, Science

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change)” และ “ภาวะโลกร้อน (Global warming)” มักใช้แทนกันได้ แต่มีความหมายที่แตกต่างกัน  แม้ว่าผู้คนมักจะใช้คำเหล่านี้สลับกัน แต่ภาวะโลกร้อนเป็นเพียงลักษณะหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “ภาวะโลกร้อน” หมายถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก ส่วนใหญ่เนื่องมาจากความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศที่เพิ่มขึ้น “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หมายถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกในช่วงเวลาอันยาวนาน ซึ่งรวมถึงปริมาณฝน อุณหภูมิ และรูปแบบลม นักวิทยาศาสตร์ทราบเกี่ยวกับปรากฏการณ์เรือนกระจกตั้งแต่ปี 1824 เมื่อ Joseph Fourier นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสแสดงให้เห็นว่าก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศเพิ่มอุณหภูมิพื้นผิวโลกได้อย่างไร เขาคำนวณว่าโลกจะหนาวเย็นกว่านี้มากหากไม่มีก๊าซเรือนกระจก ปรากฏการณ์เรือนกระจกตามธรรมชาตินี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้สภาพอากาศของโลกน่าอยู่ หากไม่มีก๊าซเหล่านี้พื้นผิวโลกจะมีอุณหภูมิเย็นลงกว่านี้มาก ในปี 1895 Svante Arrhenius นักเคมีชาวสวีเดนค้นพบว่ามนุษย์เป็นตัวการในการเพิ่มสภาวะเรือนกระจกโดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ เขาเริ่มต้นการวิจัยสภาพภูมิอากาศ 100 ปีซึ่งทำให้เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน ระดับของก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นและลดลงตลอดประวัติศาสตร์ของโลก แต่ในช่วงสองสามพันปีที่ผ่านมาค่อนข้างคงที่ อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกยังคงค่อนข้างคงที่ในช่วงเวลานั้นจนถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มขึ้นในปลายทศวรรษที่ 1700 และต้นทศวรรษที่ 1800 ในสหราชอาณาจักรและแพร่กระจายไปทั่วโลก เราเริ่มเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำมัน เพื่อใช้ในรถยนต์ รถบรรทุก และโรงงาน รวมทั้งการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อจัดหาท่อนไม้เป็นเชื้อเพลิง นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศซึ่งดักจับความร้อนจากดวงอาทิตย์ และทำให้อุณหภูมิพื้นผิวโลกและอากาศสูงขึ้น […]

No Comments read more

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)#1 ปรากฏการณ์เรือนกระจก

Posted: 03/12/2020 at 21:37   /   Climate Change, Science

ดวงอาทิตย์ให้พลังงานความร้อนแก่โลก โดยแผ่พลังงานออกมาในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ความยาวคลื่นสั้นมากและมีระดับพลังงานสูง โดยส่วนใหญ่มีความถี่ย่านแสงที่มองเห็นได้ (visible light) หรือใกล้เคียง เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) พลังงานแสงอาทิตย์ที่มาถึงชั้นบรรยากาศโลกประมาณ 1 ใน 3 จะสะท้อนกลับสู่อวกาศทันทีโดยเมฆ น้ำแข็ง หิมะ ทราย และพื้นผิวสะท้อนแสงอื่นๆ พลังงานส่วนที่เหลืออีก 2 ใน 3 ถูกดูดซับโดยมหาสมุทร ผืนดิน และชั้นบรรยากาศ เพื่อปรับสมดุลของพลังงานที่รับเข้ามา โลกจะต้องแผ่พลังงานจำนวนเท่าเดิมกลับสู่อวกาศ เนื่องจากโลกเย็นกว่าดวงอาทิตย์มาก จึงแผ่รังสีที่ความยาวคลื่นยาวกว่ามากและมีระดับพลังงานที่อ่อนกว่าโดยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงรังสีอินฟราเรด (IR) ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งรังสีอินฟราเรดจะถูกดูดซับโดยก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น บรรยากาศที่ร้อนขึ้นจะแผ่รังสีอินฟราเรดกลับสู่พื้นผิวโลก มันเป็นความสมดุลของรังสีขาเข้าและรังสีขาออกที่ทำให้โลกมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำและคงที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตสามารถอยู่อาศัยได้  โดยโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 59oF (15 oC) จากข้อมูลของ NASA หากไม่มีความสมดุลของชั้นบรรยากาศ โลกก็จะเย็นและไม่มีชีวิตชีวาเหมือนดวงจันทร์หรือร้อนแรงเหมือนดาวศุกร์ ดวงจันทร์ซึ่งแทบไม่มีชั้นบรรยากาศมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 243 oF (-153 oC) ในทางกลับกันดาวศุกร์มีบรรยากาศที่หนาแน่นมากซึ่งดักจับรังสีดวงอาทิตย์ไว้ อุณหภูมิเฉลี่ยบนดาวศุกร์อยู่ที่ประมาณ 864 oF (462 oC) อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศส่วนใหญ่ยอมรับว่ามนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงบรรยากาศของโลกอย่างมากในช่วงสองศตวรรษที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global […]

No Comments read more